คำนาม คือ คำที่ใช้แทนคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ และกิริยาอาการต่างๆ
คำนามในภาษาไทยแบ่งออกเป็น 5 ชนิด คือ
1. สามานยนาม หรือคำนามทั่วไป คือ คำนามสามัญที่ใช้เป็นชื่อทั่วไป หรือเป็นคำเรียกสิ่งต่างๆ โดยทั่วไป ไม่ชี้เฉพาะเจาะจง เช่น คน, รถ, หนังสือ, กล้วย เป็นต้น สามานยนามบางคำมีคำย่อยเพื่อบอกชนิดย่อยๆของสิ่งต่างๆ เรียกว่า สามานยนามย่อย เช่น คนไทย, รถจักรยาน, หนังสือแบบเรียน, กล้วยหอม เป็นต้น ตัวอย่างเช่น
* ดอกไม้อยู่ในแจกัน
* แมวชอบกินปลา
2. วิสามานยนาม หรือคำนามชี้เฉพาะ คือ คำนามที่เป็นชื่อเฉพาะของคน สัตว์ สถานที่ หรือเป็นคำเรียกบุคคล สถานที่เพื่อเจาะจงว่าเป็นคนไหน สิ่งใด เช่น ธรรมศาสตร์, วัดมหาธาตุ, รามเกียรติ์ เป็นต้น ตัวอย่างเช่น
* นิดและน้อยเป็นพี่น้องกัน
* อิเหนาได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดของกลอนบทละคร
3. ลักษณนาม คือ คำนามที่ทำหน้าที่ประกอบนามอื่น เพื่อบอกรูปร่าง ลักษณะ ขนาดหรือปริมาณของนามนั้นให้ชัดเจนขึ้น เช่น รูป, องค์, กระบอก เป็นต้น ตัวอย่างเช่น
* คน 6 คน นั่งรถ 2 คัน
* ผ้า 20 ผืน เรียกว่า 1 กุลี
4. สมุหนาม คือ คำนามบอกหมวดหมู่ของสามานยนาม และวิสามานยนามที่รวมกันมากๆ เช่น ฝูงผึ้ง, โขลงช้าง, กองทหาร เป็นต้น ตัวอย่างเช่น
* กองยุวกาชาดมาตั้งค่ายอยู่ที่นี่
* พวกเราไปต้อนรับคณะรัฐมนตรี
5. อาการนาม คือ คำเรียกสิ่งที่ไม่มีรูปร่าง ไม่มีขนาด จะมีคำว่า "การ" และ "ความ" นำหน้า เช่น การกิน , การนอน , การเรียน , ความสวย , ความคิด , ความดี เป็นต้น ตัวอย่างเช่น
* การวิ่งเพื่อสุขภาพไม่ต้องใช้ความเร็ว
* การเรียนช่วยให้มีความรู้
ข้อสังเกต คำว่า “การ” และ “ความ” ถ้านำหน้าคำชนิดอื่นที่ไม่ใช่คำกริยา หรือวิเศษณ์จะไม่นับว่าเป็นอาการนาม เช่น การรถไฟ, การประปา, ความแพ่ง เป็นต้น คำเหล่านี้จัดเป็นสามานยนาม
หน้าที่
* ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค เช่น
o เด็กร้องเพลง
o นกบิน
* ทำหน้าที่เป็นกรรมของประโยค เช่น
o แมวกินปลา
o ตำรวจจับผู้ร้าย
o น้องทำการบ้าน
* ทำหน้าที่เป็นส่วนขยายคำนามอื่น เช่น
o สมศรีเป็นข้าราชการครู
o นายสมศักดิ์ทนายความฟ้องนายปัญญาพ่อค้า......................
* ทำหน้าที่ขยายคำกริยา เช่น
o แม่ไปตลาด
o น้องอยู่บ้าน
o เธออ่านหนังสือเวลาเช้า
* ทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็มของคำกริยาบางคำ เช่น
o เขาเหมือนพ่อ
o เธอคล้ายพี่
o วนิดาเป็นครู
o เขาเป็นนางสาวไทย
o มานะสูงเท่ากับคุณพ่อ
* ทำหน้าที่ตามหลังบุพบท เพื่อทำหน้าที่บอกสถานที่ หรือขยายกริยาให้มีเนื้อความบอกสถานที่ชัดเจนขึ้น เช่น
o เขาเป็นคนเห็นแก่ตัว
o พ่อนอนบนเตียง
o ปู่ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล
* ทำหน้าที่เป็นคำเรียกขาน เช่น
o คุณครูคะหนูยังไม่เข้าใจเลขข้อนี้ค่ะ
o คุณหมอลูกดิฉันจะหายป่วยไหม
o นายช่างครับผมขอลากิจ 3 วัน
คำชี้แจง ให้เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ข้อใดไม่มีคำอาการนาม
ก. เขามีความลับคับอก
2. ข้อใดใช้ลักษณะนามผิด
ก.วัดนี้มีเจดีย์หลายองค์
3. “ฉันไปทำบุญที่วัดในวันเข้าพรรษา” คำที่พิมพ์ตัวหนาทำหน้าที่ตรงกับข้อใด
ก. กรรมตรง
4. “พิมพ์ขายบ้านน้องชายแล้ว” คำที่พิมพ์ตัวหนาทำหน้าที่ตรงกับข้อใด
ก. กรรมตรง
5. “อนงค์สวยเหมือนแม่” คำที่พิมพ์ตัวหนาทำหน้าที่ตรงกับข้อใด
ก. กรรมตรง
6. “เรื่องตาลโตนดของหม่อมเจ้าจักรพันธ์ เพ็ญศิริจักรพันธุ์ ฉันอ่านแล้ว” คำที่พิมพ์ตัวหนาทำหน้าที่ตรงกับข้อใด
ก. ประธาน
7. ข้อใดมีคำนาม
ก. พระคุณเจ้าจะไปไหน
8. คำที่พิมพ์ตัวหนาข้อใดทำหน้าที่เป็นลักษณะนามได้
ก. ทหารทั้งปวงรอคอยเป็นขนัดอยู่แล้ว
9. “ครั้นรุ่งแสงสุริยันตะวันโด่ง โก้งโค้งลงในอ่างแล้วล้างหน้า
10. คำนามในข้อ 9 เป็นคำนามชนิดใด
ก. นามทั่วไป
11. ข้อใดคำนามทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค
ก. ภูมีซบเซาเมากัญชา
ข. การนอนเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด
ค. ความเมตตาเป็นคุณธรรมอันประเสริฐ
ง. การเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์
2. ข้อใดใช้ลักษณะนามผิด
ก.วัดนี้มีเจดีย์หลายองค์
ข.พระพุทธรูปองค์นี้งามมาก
ค.พระฤาษีองค์นี้มาจากไหน
ง.ในพระบรมมหาราชวังมีพระที่นั่งหลายองค์
3. “ฉันไปทำบุญที่วัดในวันเข้าพรรษา” คำที่พิมพ์ตัวหนาทำหน้าที่ตรงกับข้อใด
ก. กรรมตรง
ข. กรรมรอง
ค. ขยายกริยา (บอกสถานที่)
ง. ขยายกริยา (บอกเวลา)
4. “พิมพ์ขายบ้านน้องชายแล้ว” คำที่พิมพ์ตัวหนาทำหน้าที่ตรงกับข้อใด
ก. กรรมตรง
ข. กรรมรอง
ค. ส่วนเติมเต็ม
ง. ขยายกริยา (บอกสถานที่)
5. “อนงค์สวยเหมือนแม่” คำที่พิมพ์ตัวหนาทำหน้าที่ตรงกับข้อใด
ก. กรรมตรง
ข. กรรมรอง
ค. ส่วนเติมเต็ม
ง. ขยายคำนาม
6. “เรื่องตาลโตนดของหม่อมเจ้าจักรพันธ์ เพ็ญศิริจักรพันธุ์ ฉันอ่านแล้ว” คำที่พิมพ์ตัวหนาทำหน้าที่ตรงกับข้อใด
ก. ประธาน
ข. กรรมตรง
ค. กรรมรอง
ง. ส่วนเติมเต็ม
7. ข้อใดมีคำนาม
ก. พระคุณเจ้าจะไปไหน
ข. กระผมเคารพพระคุณเจ้าครับ
ค. ข้าพเจ้าเกรงใจท่านมาก
ง. พระยาอุปกิตศิลปสารแต่งเรื่องอักขรวิธี
8. คำที่พิมพ์ตัวหนาข้อใดทำหน้าที่เป็นลักษณะนามได้
ก. ทหารทั้งปวงรอคอยเป็นขนัดอยู่แล้ว
ข. ก็จะได้เร่งลงมือยิงธนูไฟ
ค. บรรดาม้าทุกตัวก็รัดขลุมคับปาก
ง. ขุนพลนั้นยืนอยู่บนเรือน้อย
9. “ครั้นรุ่งแสงสุริยันตะวันโด่ง โก้งโค้งลงในอ่างแล้วล้างหน้า
เสร็จเสวยข้าวตังกับหนังปลา สงสระสรงคงคาในท้องคลอง”
ข้อความนี้มีคำนามกี่คำ
ก. 7 คำ ข. 8 คำ
ค. 9 คำ
ง. 10 คำ
ก. นามทั่วไป
ข. นามเฉพาะ
ค. นามบอกหมวดหมู่
ง. อาการนาม
11. ข้อใดคำนามทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค
ก. ภูมีซบเซาเมากัญชา
ข. เปิดม่านเห็นข้าวตังกับหนังปลา
ค. อยู่ยังวิมานรูจี
ง. ให้อยากหวานหวานรำคาญอก
12. ข้อใดคำนามทำหน้าที่เป็นกรรมของประโยค
ก. นางสีดากับนางพิมสวย
ข. ฉันกินปลาทูทอดกรอบ
ค. เด็ก ๆ เดินเร็วมากจริง ๆ
ง. ผ้าสไบมีสีสวย
13. ข้อใดมีนามทั่วไป นามเฉพาะ และลักษณนาม
ก. ศิราณีถูกครูตำหนิหลายครั้ง
ข. ปริตรกินขนมในห้องเรียน
ค. สิริพลร้องเพลงเพราะมาก
ง. ณัฐกฤตเป็นเด็กเกเรใช่ไหม
14. ข้อใดมีคำนามมากที่สุด
ก. นักกีฬาขว้างจักร
ข. นายแพทย์รักษาคนไข้
ค. ลูกเสือต้องมีสัตย์
ง. ภารโรงตัดหญ้าที่สนาม
15. “รัฐบาลส่งเสริมการท่องเที่ยว” ข้อความนี้มีคำนามกี่คำ
ก. 2 คำ
ข. 3 คำ
ค. 4 คำ
ง. 5 คำ
16. คำนามในข้อใดถือเป็นกรรมรองของประโยค “พี่สาวถอดเข็มขัดทองจากเอวให้แม่เส้น หนึ่ง”
ก. พี่สาว
ข. เข็มขัดทอง
ค. เอว
ง. แม่
17. ข้อใดใช้ลักษณนามได้เหมาะสม
ก. รองเท้า 1 คู่ มี 2 อัน
ข. วัด 1 แห่ง มีพระสงฆ์หลายองค์
ค. กล้วยเครือหนึ่งมีหลายหวี
ง. มะพร้าวช่อหนึ่งมีหลายลูก
18. คำนามที่พิมพ์ตัวหนาข้อใดทำหน้าที่แตกต่างจากข้ออื่น
ก. ผมลงไปสุราษฎร์ธานีเป็นครั้งที่เท่าไรจำไม่ได้
ข. มหาวิทยาลัยของเราอยู่ปัตตานี
ค. เยอรมันโจมตีอังกฤษในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ง. ปิดเทอมนี้ครอบครัวเราจะเที่ยวอเมริกากัน
19. ประโยคใดมีทั้งกรรมตรงและกรรมรอง
ก. ฝ่ายหญิงเรียกฝ่ายชายให้เปิดประตูรับ
ข. หนังสือที่ดีจะให้ความรู้เหมือนครูว่า
ค. คนรักทำให้คนรักต้องอกหักได้หรือ
ง. พ่อทิ้งมรดกไว้ให้ลูกหลายสิบล้าน
20. คำนามที่พิมพ์ตัวหนาในข้อใดทำหน้าที่ขยายคำนามอื่น
ก. ประเทศไทยผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้สำเร็จ
ข. เด็ก ๆ ควรมีความประพฤติเรียบร้อย
ค. พระสงฆ์ทำวัตรเวลาเย็น
ง. เราคือคนไทยทั้งแท่ง
จัดทำโดย
ด.ช.กริษณุ บริเวธานันทน์ ม.1/1 เลขที่9
ด.ช.กิตติพศ สุขพัลลภรัตน์ ม.1/1 เลขที่12
ด.ช.ฐิติวัฒน์ วิฒิมาปกรณ์ ม.1/1 เลขที่28
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น